เชื้อไวรัส โควิด-19 อาการที่พบ และ 9 วิธีการปกป้องตนเอง และผู้อื่น
เชื้อไวรัสโควิด-19 หรือเชื้อไวรัสโคโรน่า จัดอยู่ในตระกูลใหญ่ที่สุดในบรรดาเชื้อไวรัสที่เจอในสัตว์ และ คนที่ก่อให้เกิดความเจ็บไข้ได้ป่วย ต่าง ๆ ตั้งแต่โรคไข้หวัดปกติธรรมดาจนกระทั่งโรคที่ส่งผลให้เกิด ความเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างหนักอาทิเช่น โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) และ โรคระบบทางเดินฉับพลันร้ายแรง (SARS) วันนี้เรามาทำความเข้าใจ และศึกษา อาการ เชื้อไวรัส โควิด-19 และวิธีที่จะปกป้องตนเองและผู้อื่นจากเชื้อไวรัส โควิด-19 พอเป็นแนวทางสังเขปดังต่อไปนี้
เชื้อไวรัสโควิด-19 มีอาการ ระยะฟักตัวนานแค่ไหน และ มีชีวิตอยู่บนพื้นผิวต่าง ๆได้นานแค่ไหน
ระยะฟักตัวคือ ระยะเวลามีการติดเชื้อ จนถึงระยะที่เริ่มมีการ แสดงอาการของโรคออกมา ขณะนี้คาดว่าระยะฟักตัวของโรคใช้เวลาโดยประมาณ 1 ถึง 14 วัน โดยค่าเฉลี่ย จะอยู่ที่ 5 วัน
ยังไม่มีความแน่นอนว่าเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด 19 อยู่บนพื้นผิวต่าง ๆได้นานแค่ไหนแต่ดูเหมือนว่ามันจะมีพฤติกรรมเหมือนโคโรนาไวรัสตัวอื่น ๆ งานศึกษาวิจัย (รวมถึงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโควิด 19) ระบุว่าเชื้อนี้อาจมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวต่าง ๆได้หลายชั่วโมงไปจนถึงหลายวัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาวะต่าง ๆ เช่น ลักษณะของพื้นผิว อุณหภูมิและความชื้นของสภาวะแวดล้อม
ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะมีอาการ ดังนี้
- ไอ
- เป็นไข้
- อ่อนเพลีย
- หายใจลำบาก (กรณีรุนแรง)
ผู้ติดเชื้ออาจป่วยเนื่องจากไวรัสนี้เป็นเวลา 1-14 วันก่อนที่จะแสดงอาการ อาการทั่วไปของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 คือเป็นไข้ อ่อนเพลีย และไอแห้ง คนส่วนใหญ่ (ประมาณร้อยละ 80) หายจากโรคนี้ได้โดยไม่ต้องรับการรักษาพิเศษ
ในกรณีส่วนน้อย โรคอาจรุนแรงจนถึงขั้นทำให้เสียชีวิต ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว (เช่น หอบหืด เบาหวาน หรือโรคหัวใจ) อาจมีความเสี่ยงมากขึ้นที่อาการป่วยจะรุนแรง
9 วิธีการปกป้องตนเอง และผู้อื่นจากเชื้อไวรัส โควิด-19
เพื่อให้เรา และผู้อื่นสามารถอยู่รอดในภาวะที่เชื้อไวรัส โควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาด มีมาตรการ และข้อแนะนำ มาสรุปเพื่อใช้ปฏิบัติให้ปลอดจากเชื้อไวรัส โควิด-19 ดังนี้
-
สวมหน้ากากอนามัย
เพื่อป้องการแพร่กระจาย ที่อาจจะเกิดจากตัวเราเอง หรือการได้รับเชื้อไวรัสโควิด -19 จากผู้อื่น อันเป็นเหตุและปัจจัยที่ทำให้เชื้อแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และมาก พบว่าจากการที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ไม่ทราบว่าตนเองเป็นผู้ติดเชื้อ แต่ยังทำกิจกรรมเหมือนเดิม ทำให้เกิดการแพร่กระจายของโรคไปโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว จากสถานการณ์ที่เห็น อัตราการแพร่เชื้อของคนที่ติดเชื้อที่ยังไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อมีเกือบถึง 1 ต่อ 50 คน ดังนั้นการป้องกันไว้ก่อนคือ สวมหน้ากากอนามัย
-
ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัส ผู้อื่น หรือสิ่งต่าง
เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถมีอายุอยู่ได้นานบนพื้นผิวต่าง ๆ เพื่อป้องกันเชื้อที่มองไม่เห็น จึงควรล้างมือบ่อย ๆ และใช้ แอลกอฮอล์ เพื่อเป็นการตัดโอกาสในการแพร่เชื้อ ถ้าหากมีความรู้สึกว่าพื้นผิวใดอาจปนเปื้อนให้รีบทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทันที ทำความสะอาดมือด้วยการใช้เจลแอลกอฮอล์ หรือล้างมือด้วยน้ำ และสบู่ หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา ปากรวมทั้งจมูก
-
หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชน ที่เรียกว่า Social Distancing หรือ Physical Distancing
เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ จำเป็นที่เราจะต้องตัดวงจรการแพร่เชื้อ จึงควรลดโอกาสการแพร่เชื้อ และการได้รับเชื้อ โดยการแยกตัวออกจากผู้อื่น เว้นระยะห่าง เมื่อต้องอยู่ใกล้ผู้คนควรอยู่ห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร เดี๋ยวนี้เริ่มมีข้อมูลเพิ่มขึ้นว่า อาจต้องถึง 3 เมตร การทำ Social Distancing หรือ Physical Distancing ถือเป็นการปกป้องตัวเอง และปกป้องผู้อื่น ซึ่งถือว่าเป็นความรับผิดชอบที่สำคัญ มีความจำเป็นอย่างยวด ที่ทุกคนต้องมีความรับผิดชอบต่อกัน เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาด
-
อยู่กับครอบครัว
ควรหลีกเลี่ยงการสังสรรค์ หรือการพบปะสมาคมชั่วคราว เป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกันในครอบครัว งดการเคลื่อนย้ายที่อยู่ไปตามที่อื่น ๆ เช่นการไปเยี่ยมญาติในต่างจังหวัด หรือ การไปเยี่ยมเพื่อนฝูงในระแวกบ้านใกล้เคียง
-
มีสติอย่ากังวลจนเกินไป
การมองโลกในแง่ดี กับการเข้าใจสถานการณ์ จะทำให้ลดความเครียดอันอาจจะเกิดขึ้นในระยะที่ทุกคนต้อง จำกัดตัวเองอยู่กับบ้าน หรือต้องทำ Social Distancing หากมีโอกาสนั่งสมาธิ ดูแลสภาพจิตใจ ของตนเองให้อยู่ในสภาวะที่ดีอยู่ตลอด ก็จะถือว่าเป็นโอกาสและทางเลือกที่ดี
-
การออกกำลังกาย
งดเว้นการออกกำลังกายในห้องแอร์ หรือห้องที่ปิด และการว่ายน้ำ หรือในแหล่งที่มีผู้คนมากมาย วิธีออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือการทำงานบ้าน หรือเล่นโยคะ หรือ exercise อยู่กับบ้านเป็นต้น
-
พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อน หรือว่าเป็นการสร้าง Self Healing ให้กับตนเองเพราะร่างกายของเราจะทำการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในขณะที่เรานอนหลับ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอถือเป็นหัวใจการดูแล และป้องกันไม่ให้ เชื้อไวรัสโควิด -19 เข้ามาทำอะไรเราได้ เพราะในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนใด ๆ ที่จะมารักษาได้ มีข้อมูลว่า 80% ขอผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 สามารถหายเองได้
-
ทานอาหาร ให้พอเหมาะและถูกสุขลักษณะ
การทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ กินสุก และ ได้สารอาหารครบถ้วนมีความสำคัญที่จะสร้างให้ร่างกายแข็งแรง และต่อสู้เชื้อไวรัสโควิด -19 ได้ การกักตุนอาหารที่เป็นอาหารกระป๋อง หรือ อาหารแห้ง มากเกิน และขาดการบริโภคให้ถูกหลักนั้นไม่มีความจำเป็น ควรแบ่งสัดส่วนการกักตุนอาหารให้พอเหมาะ เช่น ผัก ผลไม้ และเนื้อสด เช่น ใช้วิธีกักตุนแบบ 1 อาทิตย์ซื้อ 1 ครั้ง เราสามารถบริหารจัดการ การออกจากบ้านเพื่อไปซื้ออาหารได้ โดยลดจำนวนการออกจากบ้านทุกวัน เป็นการออก 1-2 อาทิตย์ ต่อครั้ง
ควรทำรายการสินค้าที่ต้องซื้อก่อนการออกจากบ้าน ทำให้ลดระยะเวลาออก จากบ้าน และ ลดระยะเวลาการอยู่นอกบ้านได้
เดี๋ยวนี้มีบริการสั่งสินค้าทางอินเตอร์เน็ต ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นเป็นทางเลือกแทนการออกนอกบ้านได้ การทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ กินสุก และ ได้สารอาหารครบถ้วนมีความสำคัญที่จะสร้างให้ร่างกายแข็งแรง และต่อสู้เชื้อไวรัสโควิด -19 ได้
การกักตุนอาหารที่เป็นอาหารกระป๋อง หรือ อาหารแห้ง มากเกิน และขาดการบริโภคให้ถูกหลักนั้นไม่มีความจำเป็น ควรแบ่งสัดส่วนการกักตุนอาหารให้พอเหมาะ เช่น ผัก ผลไม้ และเนื้อสด ใช้วิธีกักตุนแบบ 1 อาทิตย์ซื้อ 1 ครั้ง เราสามารถบริหารจัดการ การออกจากบ้านเพื่อไปซื้ออาหารได้ โดยลดจำนวนการออกจากบ้านทุกวัน เป็นการออก 1-2 อาทิตย์ ต่อครั้ง ควรทำรายการสินค้าที่ต้องซื้อก่อนการออกจากบ้าน ทำให้ลดระยะเวลาออก จากบ้าน และ ลดระยะเวลาการอยู่นอกบ้านได้ เดี๋ยวนี้มีบริการสั่งสินค้าทางอินเตอร์เน็ต ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นเป็นทางเลือกแทนการออกนอกบ้านได้
นอกจากนี้สุขลักษณะในการทานอาหารก็เป็นเรื่องสำคัญ ควรใช้ช้อนกลางในกรณีที่ทานอาหารร่วมกันในบ้าน ไม่ควรกินดื่มโดยใช้ภาชนะร่วมกัน เช่นการดื่มน้ำในแก้วเดียวกัน การดูแลกันในครอบครัวก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องทำ เนื่องจากอาจมีบุคคลในครอบครัวที่อาจเกิดติดเชื้อ และนำเชื้อเข้ามาแพร่ในบ้านได้
-
ทานถั่งเช่าและวิตามินซี เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
มีผลงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับถั่งเช่าว่าสามารถช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย เป็นอีกทางเลือกที่จะป้องกันเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยการบริโภคถั่งเช่า และเสริมด้วยวิตามินซี ในถั่งเช่านั้นมีสารออกฤทธิ์ที่สามารถช่วยลดการติดเชื้อ และบรรเทาอาการของโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ ได้แก่
- สารคอร์ไดเซปิน (Cordycepin ) ต่อต้านเชื้อไวรัส
- สารคอร์ไดเซปิก เอซิด (Cordycepic Acid) ลดอาการหอบหืด
- สารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย โดยเพิ่มปริมาณ เม็ดเลือดขาว และเพิ่มความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว ในการต่อสู้กับเชื้อโรค สารพิษ และสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในร่างกาย
ด้วยวิธีการที่นำเสนอมาถือเป็นข้อปฏิบัติที่จะทำให้เรามีร่างกาย และจิตใจที่แข็งแรง พร้อมที่จะต่อสู้กับ อาการต่างของ เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างดี การปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดเป็นตัวช่วยให้การแพร่ระบาดนี้ลดลง จนหมดไป สิ่งสำคัญสุดท้ายคือกำลังใจที่จะปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดในระยะ 3-12 เดือน ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นจะต้องมี เมื่อทุกคนปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ย่อมส่งผลแก่ตัวเอง คนในครอบครัว สังคมรอบข้าง และประเทศชาติ และสุดท้ายส่งผลต่อโลกของเรา ซึ่งสุดท้ายแล้วเราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันในที่สุด
อ้างอิงจากเว๊ปไซต์ https://covid19.ddc.moph.go.th/
[ux_products cat=”115,114″]