โรคเก๊าท์ อาการ เกิดจากร่างกายสร้างกรดยูริกมากกว่าปริมาณที่ขับออกหรือเกิดจากการที่ร่างกายสร้างกรดยูริกเป็นปกติแต่ปริมาณที่ขับออกจากร่างกายมีน้อยกว่า หรือเรียกว่า ภาวะกรดในเลือดสูง (Hyperuricemia) ซึ่งโดยปกติแล้ว กรดยูริกที่สร้างขึ้นจะมีการขับออกจากร่างกายได้2 ทางหลัก คือ ขับออกทางระบบทางเดินอาหาร ประมาณ 1 ใน 3 และส่วนที่เหลือจะขับออกทางไตได้ประมาณ 2ใน 3 ของปริมาณกรดยูริกที่ร่างกายสร้างได้ในแต่ละวันซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ประมาณ 90% จะมีความผิดปกติในการขับกรดยูริกออกทางไต
โรคเก๊าท์ อาการ ในระยะเริ่มแรก จะมีอาการปวดอย่างเฉียบพลันโดยในช่วงวันแรกจะเป็นช่วงที่ปวดมากที่สุด และไม่มีอาการเตือนล่วงหน้าจุดที่จะแสดงอาการก่อนส่วนอื่นๆ ของร่างกายไ คือ นิ้วโป้งเท้า ข้อเท้า และข้อเข่าอาการปวดมักจะเริ่มต้นในช่วงกลางคืนหลังจากเวลาผ่านไปในวันที่สองอาการปวดก็จะเบาบางลงและหายปวดใน 5 – 7 วันหลังเกิดอาการ โดยสถิติแล้วพบว่า เพศชาย มีโอกาสเป็นโรคเก๊าต์มากกว่าเพศหญิง
การดูแลเรื่องอาหารการกิน
– หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกสูงได้แก่ เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ปีก ไข่ปลา หอย ปลาซาร์ดีน ปลาแฮริง ปลาไส้ตันปลาดุก กะปิ ซุปก้อน น้ำสกัดเนื้อ น้ำต้มกระดูก กระถิน ชะอม ดอกสะเดา ยอดแค ยอดผักเห็ด สาหร่าย อาหารที่ใส่ยีสต์ เช่น ขนมปัง เบียร์ เป็นต้น
-งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดโดยเฉพาะเบียร์ เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ลดการขับกรดยูริกออกทางไตหรือทางปัสสาวะหลังการดื่มจึงทำให้ไตขับกรดยูริกได้น้อยลง กรดยูริกจึงคั่งอยู่ในเลือดสูงกว่าปกติ
– ควรดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 3 ลิตร เพื่อป้องกันนิ่วในไต(การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยเพิ่มการขับกรดยูริกออกทางไตและช่วยลดโอกาสการตกตะกอนจนเป็นนิ่วในไต) เมื่อไม่มีโรคที่ต้องจำกัดน้ำ
ใช้สมุนไพรอย่าง ถั่งเช่า เป็นตัวช่วยในการปรับสมดุลของเลือด และช่วยฟอกเลือดให้สะอาด เพิ่ม oxygen ให้แก่เลือดลดความหนืดข้น เลือดจึงไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ได้สะดวก ความรุนแรงของโรคเก๊าต์จะลดลง การรับประทาน ถั่งเช่า วันละ 5-10 กรัม จะช่วยรักษาอาการ ของโรคเก๊าท์รูมาตอย และ ข้ออักเสบและโรคต่างๆ ได้