คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่า ? ที่ต้องเช้ามาก็รีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน เพื่อให้ทันตอกบัตร อาหารเช้ากับเที่ยงรวบเป็นมื้อเดียว แล้วรีบกลับมาเร่งทำงานให้เสร็จเร็วๆ กว่าจะได้กลับบ้านก็ดึกดื่นเที่ยงคืน รีบนอนเพื่อจะได้ตื่นเช้าไปทำงานอีกวัน… ถ้าใช่ คุณเคย เคยสำรวจตัวเองกันบ้างไหมว่าต้องนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ และมีปัญหาเกี่ยวกับสายตาและปวดเมื่อยบริเวณส่วนบนของร่างกายหรือไม่? หากคุณกำลังรู้สึกเช่นนั้น… คุณมีโอกาสที่จะเป็น โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) แน่นอน ลองมาทำความรู้จักโรคนี้กันดู แล้วจะรู้ว่ามันอยู่ใกล้ตัวคุณกว่าที่คิด Office Syndrome คือ กลุ่มอาการที่พบบ่อยในคนที่ทำงานในออฟฟิศ ซึ่งต้องนั่งทำงานตลอดเวลา แทบไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายไปไหนมาไหน ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการตึงเครียด แรก ๆ จะเริ่มรู้สึกปวดเกร็งกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจจะแค่ปวดตึงๆ เหมือนอะไรมาดึงรั้งไว้ นานวันเข้าถ้าไม่รีบดูแลรักษา อาการก็จะหนักขึ้นจนกลายเป็นกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง ไม่เพียงแต่อาการปวดกล้ามเนื้อเท่านั้น แต่อาการเครียด และเหนื่อยล้า ก็เป็นหนึ่งในอาการของ Office Syndrome เช่นกัน แล้วเราจะทราบได้อย่างไร ว่าเราน่าจะมีอาการของ Office Syndrome ? ลองมาสำรวจตัวเองดูว่าคุณมีอาการของ Office Syndrome หรือไม่
  • รู้สึกปวดบริเวณต้นคอ บ่า ไหล่ หรือหลัง ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน
  • มีอาการปวด เมื่อยล้า ชา หรืออ่อนแรง หลังจาก ท างานไประยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ต้องลุกเปลี่ยนอิริยาบถ บ่อยครั้ง และอาการมักจะเป็นคงค้างเป็นเวลานานหลายนาที หรือบางครั้งอาจกินเวลาเกือบชั่วโมง
  • ปวดศรีษะบ่อย เพราะในแต่ละวันคนทำงานออฟฟิศส่วนใหญ่จะเกิดความเครียดสะสม บางรายอาจเกิดจากการทำงานหนักเกินไป ทำให้เกิดอาการปวดศรีษะ อ่อนล้า และง่วงเหงาหาวนอนทั้งวัน
การบรรเทาอาการจาก Office Syndrome นอกจากต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ยังมีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่จะช่วยทุเลาอาการนี้ได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ ถั่งเช่า   ถั่งเช่า ช่วยบรรเทาอาการ ได้อย่างไร   “ถั่งเช่า” ถือได้ว่าเป็นสมุนไพรยอดฮิตในปัจจุบัน เป็นการใช้ตามสรรพคุณของภูมิปัญญาที่มีมานาน กว่าศตวรรษ เพราะถั่งเช่าอุดมไปด้วยสารต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ ได้แก่ โพลีแซคคาไรด์, นิวคลีโอไทด์, กรดอะมิโน และสเตอรอล  นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารอาหารสำคัญอื่น ๆ เช่น โปรตีน วิตามิน E, K, B1, B2 และ B12 และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี และซิลิเนียม เป็นต้น จากการศึกษาในปี 2010 ที่ตีพิมพ์ใน Journal of Alternative and Complementary Medicine แสดงให้เห็นว่าการบริโภค เห็ดถั่งเช่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการออกกำลังกายให้ดียิ่งขึ้นและมีส่วนทำให้สุขภาพโดยรวมของร่างกายดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในผู้สูงอายุ เห็ดถั่งเช่าสามารถช่วยต่อสู้กับความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ รักษาอาการปวดเมื่อยอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ และป้องกันอาการเจ็บป่วยของกล้ามเนื้อได้ จากงานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า เห็ดถั่งเช่า สามารถเพิ่มสมรรถภาพความแข็งแรง ความอดทนของร่างกาย เนื่องมากจากพวกมันออกฤทธิ์เพิ่มและสร้าง ATP  (Adenine Tri-Phosphate ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานพร้อมใช้ของร่างกาย  ที่มีส่วนช่วยในการทำงานและออกกำลังกายได้   โดยในปี 2007 the Hong Kong University of Science and Technology ค้นพบว่าการผลิตของ ATP ที่สูงขึ้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำงาน และออกกำลังกายได้นานขึ้น ช่วยขยายระยะเวลาในการออกกำลังกายแบบหนัก ๆ หรือออกกำลังแบบขั้นสูง ได้นานยิ่งขึ้นเช่นกัน   ดังนั้น ใครที่รู้ตัวว่ากำลังเสี่ยงที่จะเป็น Office Syndrome  แล้วล่ะก็ ลองหาสารสกัดจากถั่งเช่ามาทานดูนะคะ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีถั่งเช่าที่ทำออกมาในรูปแบบชา สามารถทานได้สะดวก หรือจะนั่งจิบบ่อย ๆ เวลาทำงานก็ได้ และอย่าลืมเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน โดยทำงานในอิริยาบถที่ถูกต้อง โดยเฉพาะเวลานั่ง ควรให้หลังชิดติดพนักและอย่าให้หลังงอคอตกเป็นอันขาด นอกจากนี้ยังควรพักสายตาและปรับเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่นๆ บ้างเพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและรู้สึกไม่เครียดจนเกินไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!