คำถามที่พบบ่อย
เห็ดถั่งเช่าจาก เทือกเขาในประเทศทิเบต และ จีน หรือที่เรียกว่า ตังถั่งเช่า มีชื่อวิทยาศาสตร์ Ophiocordyceps sinensis (เดิม Cordyceps sinensis ซึ่งคำว่า sinensis เป็นการระบุอย่างชัดเจนว่ามาจากจีน ในขณะที่เห็ดถั่งเช่าสีทอง มีชื่อวิทยาศาสตร์ Cordyceps militaris ซึ่งเกิดจากการเพาะเลี้ยง ในห้องปฏิบัติการ ที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อมเพื่อความสะอาด ปลอดเชื้อ และเพื่อการผลิตเห็ดถั่งเช่าที่มีคุณภาพสูงสุด จากงานวิจัยต่างๆ ได้มีการวัดค่าสารออกฤทธิ์ ในเห็ดถั่งเช่าสีทอง นั่นคือสาร คอร์ไดเซปิน ( cordycepin) ซึ่งพบได้สูงถึง 4.380 มิลลิกรัม / น้ำหนักแห้ง 1 กรัม จากการเพาะเลี้ยงในระบบปิด ในขณะที่ เห็ดถั่งเช่าจากธรรมชาติ จากเทือกเขาทิเบตมีสารตัวนี้อยู่เพียง 0.003 มิลลิกรัม และเห็ดจากเทือกเขาสูงในยูนาน มีเพียง 0.049 มิลลิกรัม
เพราะฉะนั้น ถ้าเราเลือกใช้ถั่งเช่าเพื่อช่วยในการดูรักษาโรคต่างๆ และดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราก็ควรจะเลือกใช้เห็ดถั่งเช่าสีทองที่ให้สารคอร์ไดเซปินที่สูงกว่า ซึ่งจะให้ผลช่วยในเรื่องการรักษาที่ดีกว่า นอกจากยังมีสารสำคัญในถั่งเช่าสีทองชนิดอื่นอีกมากมาย ที่มีคุณภาพช่วยเสริมการดูแลสุขภาพของท่านได้อย่างดี แถมยังได้ทั้งความสดใหม่สะอาดกว่าเห็ดในธรรมชาติ อีกด้วย
ถ้าไม่มีประวัติเกี่ยวกับการแพ้เห็ดทุกชนิด ทุกคนสามารถรับประทานเห็ดถั่งเช่าสีทองได้อย่าง อีกทั้งมีความปลอดภัยสูงไม่มีสารตกค้างในร่างกาย เราจึงสามารถรับประทาน เพื่อการบำรุงร่างกาย และ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยอาจเริ่มทดลองทานจากปริมาณน้อย แล้วเพิ่มปริมาณที่เหมาะกับตนเอง แต่ก็ไม่ควรทานมากจนเกินไป ปกติชาดอกถั่งเช่าสามารถทานเพียง 2-3 ก้านในน้ำร้อน พร้อมทานก้านที่เหลือ และแคปซูลทานวัน 1-2 แคปซูล สามารถเพิ่มปริมาณได้ แต่ต้องไม่มากจนเกินไป หากสังเกตว่ามีอาการปวดหัว ก็ควรลดปริมาณที่ทานลง สำหรับผู้ป่วย ที่ต้องการรับประทาน ชาดอกถั่งเช่า และคอร์ดี้เมด สามารถรับประทานควบคู่กับการรับประทานยาได้อย่างดี อีกด้วย ยกเว้น – คนที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน เพราะเห็ดถั่งเช่ามีสรรพคุณมนการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เพราะฉะนั้นมันจึงให้ผลแบบสวนทางกัน ซึ่ง ไม่เป็นผลดีกับร่างกาย เช่น ยาเพร็ดนิโซโลน, ยาเมโธเทรกเซท , ยาเอซาไธโอพรีน, ยาไซโคลฟอสฟาไมด์ และยา ไซโคลสปอริน ซึ่งเป็นยารักษาโรคผิวหนังเช่น โรคสะเก็ดเงิน , โรคตุ่มน้ำพองและ โรคภูมิแพ้ผิวหนังบางชนิด – ผู้ป่วยกลุ่มคนที่ใช้ยาลดน้ำตาลในเลือด ก็มีข้อควรระวังในการใช้ เนื่องจาก เห็ดถั่งเช่ามีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลในเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นหากรับประทานคู่กัน ต้องคอยดูระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติมากจนเกินไป – ห้ามใช้ในกลุ่มของผู้ที่กำลังรับยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด และ คนที่มีบาดแผลขนาดใหญ่ คนที่ต้องทำการผ่าตัด ต้องงดเว้นถั่งเช่าอย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนการผ่าตัด เนื่องจาก เห็ดถั่งเช่า จะไปลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ดังนั้นเมื่อเราเกิดบาดแผล เลือดจะหยุดไหลช้าลงกว่าคนทั่วไป – เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะจะมีผลต่อ Growth Hormone – สตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร